รักครั้งแรกของเกย์หมี วัยสี่สิบ Dry wind (Vento Seco) ภาพยนต์ทางเลือก ในปี2020 ที่น่าจับตามอง
สำหรับทั้งคนทั่วไป และกลุ่มคนรักผู้ชายหุ่นหมี

"แสบรึปล่าว.. น่าจะลองใช้น้ำมันมะพร้าวดู มันช่วยให้ผิวดีขึ้นได้"
ริคาโด้ ใช้ปลายนิ้วถูเบา ๆ ที่ริมฝีปากของหนุ่มใหญ่ คราครึ้มไปด้วยหนวดเครารกชัฏ มันแห้งผาก จนเป็นรอยแตกย่นไปทั่ว
"ช่างเถอะ มันก็แห้งไปทั้งตัวนั่นแหละ"
ซานโดรบอกปัด ขณะเดียวกับที่ถูกชายหนุ่มที่ดูเด็กกว่าตรงหน้า โลมเลียริมฝีปากด้วยลิ้นแสนชุ่มฉ่ำ ก่อนที่จะเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำนั้นมากไปกว่านี้ สองแขนแกร่งยกขึ้นผละอีกคนออกด้วยความหวั่นในใจ ว่าจะมีใครมาเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำร่วมกันอยู่
"ลืมมันไปซะ..."
เขาพูดน้ำเสียงนิ่ง แล้วเดินออกไปทางประตูใหญ่ของโรงเก็บของ พร้อมกับใช้นิ้วล้วงเอาบางสิ่งคล้ายกับเศษดิน ออกจากปาก
รู้จักกับผู้กำกับ Daniel Nolasco

ประโยคข้างต้นเป็นหนึ่งในฉาก จาก "Dry Wind" ภาพยนต์สัญชาติบราซิล กำกับโดย Daniel Nolasco ผู้กำกับภาพยนต์แนว LGBTQ+ มากมายหลายเรื่อง เช่น Uranus Pluto , Neptune , Mr. Fox , Male Shorts International V1 , Mr. Leather มาจนถึงเรื่องล่าสุดกับ Dry Wind หรือ Vento Seco ในภาษาโปรตุเกส ที่เข้าฉายในปี 2020

บุรุษหุ่นล่ำ ในชุดหนังรัดรูป
เดเนียล เป็นผู้กำกับชาวบราซิล ที่ได้รับอิธิพลอย่างมากจากงานเขียนของ Tom of Finland ศิลปินชาวฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงด้านงานศิลปะที่เป็นเกย์ และ มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมเกย์ในศตวรรษที่ 20 เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "ผู้สร้างภาพลามกอนาจารที่มีอิทธิพลมากที่สุด" โดยโจเซฟดับเบิลยู โดยภาพเขียนของ Tom of Finland นั้น จะมีความโดดเด่นคือนายแบบชายหนุ่มหุ่นกำยำ ไว้หนวดเครา ในชุดหนังรัดรูป พร้อมกับอิริยาบทต่าง ๆ ที่ชวนให้ผู้คนเกิดความสงสัย

แต่ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะมีผลอย่างมากกับงานของเขา แต่ในด้านชีวิตส่วนตัวของแดเนียล ในภายนอกเขาไม่ได้แสดงออกมาตรง ๆ ความชื่นชอบในชายหนุ่มกับเครื่องหนังรัดรูป ไมไ่ด้หมายความว่าเขาจะต้องแต่งกายแบบนี้ในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งหมดจะอยู่ในโลกของจินตนาการ และผลงานของเขามากกว่า ดังที่เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Frameline ว่าเขาเป็นคนที่อยู่ในโลกของจินตนาการเพ้อฝัน (Fantasy person) หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเขามีผลให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศวัฒนธรรม แนวคิดของผู้ชายชาวบราซิล ซึ่งล้วนแต่มีอิทธิพลต่อตัวเขา และต่อภาพยต์เรื่อง Dry Wind เป็นอย่างมาก
บราซิลไม่ควรเป็นสวรรค์ด้านการท่องเที่ยวของชาวเกย์
เมื่อกล่าวถึงประเทศบราซิล ซึ่งมีแนวคิดในด้าน LGBTQ+ ที่ค่อนข้างหักล้างกันเอง โดยล่าสุดที่มีข่าวเรื่องของ ฌาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีบราซิลถูกวิจารณ์หนัก หลังบอกว่าบราซิลไม่ควรเป็นสวรรค์ด้านการท่องเที่ยวของชาวเกย์
โดยทั้งนี้ จากคำพูดของโบลโซนาโร ดูเหมือนจะย้อนแย้งกับความเป็นจริงที่ว่าบราซิลไม่สามารถเป็นสวรรค์ของชาวเกย์ได้ เนื่องจากนครริโอ เดอ จาเนโร นั้นเคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของการท่องเที่ยวในกลุ่มชาวเกย์ และเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกย์เช่นกัน ที่มา : โพสต์ ทูเดย์
Dry Wind (Vento Seco) 2020

ชีวิตที่แห้งผาก ของซานโดร
เมืองคาตาลัน ในรัฐโกยา ของประเทศบราซิล ที่แห่งนี้มันมีแต่ความแห้งแล้ง พอ ๆ กับชีวิตของ ซานโดร (Leandro Faria Lelo) หนุ่มใหญ่วัย40 หุ่นหมี แด๊ดดี้ ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตั้งแต่จำความได้ ชีวิตส่วนตัวและการงานของเขาเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ ในโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่ง
ตอกบัตรเข้างาน เลิกงานเตะบอล กลับบ้านแล้วนอน เป็นวงจรชีวิตของเขาที่ทำอยู่มาครึ่งชีวิต นับตั้งแต่เปลี่ยนมาลงเอยที่โรงงานแห่งนี้ แต่นั่นก็ไม่จริงไปซะทีเดียว ในอีกโลกหนึ่งที่เขาเก็บไว้เป็นความลับต่อผู้คน คือความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเพื่อนร่วมงานหนุ่มชื่อ ริคาโด (Allan Jacinto Santana)

ฝันปะหลาด
ซานโดรมักจะฝันถึงสิ่งแปลกปะหลาด(ที่เขาคิดว่ามันแปลก) นั่นคือฝันเห็นชายแก่ กับสุนัขหนุ่มของเขา ซึ่งมีอยู่จริงในสังคมโดยเราเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าเรียกว่า Puppy Play ซานโดรเริ่มฝันแบบนี้ตั้งแต่ช่วงฤดูหนาว เขาเคยปรึกษาเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งเธอบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่ช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลง เรามักจะฝันถึงสิ่งแปลก ๆ แต่ซานโดรรู้ดีว่านี่ไม่จริง มันมีบางสิ่งที่เชื่อมโยงกันกับความฝันนั้นแน่นอน

ความสำพันธ์แบบ "เพื่อนเอา"
ความสำพันธ์ของซานโดร และ ริคาโด้ นั้นถูกเรียกว่า Fuck Buddy หรือในภาษาไทยที่แปลอย่างง่ายๆว่า "เพื่อนเอา" พวกเขาแทบจะไม่พยายามรู้จักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลย มีเพียงบางเวลาเท่านั้นที่จะนัดพบกันในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อปลดเปลื้องความร้อนรุ่มในใจ ฝ่ายริคาโด้นั้นไม่ได้ใส่ใจ หรือคิดจะปกปิดความลับอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบนี้นัก ครั้งหนึ่งถึงกับที่ริคาโด้เคยคิดออกปากชวนซานโดรไปเปิดตัวกับภรรยาของตัวเอง (ในโลกของภาพยนต์เรื่องนี้ มีความก้ำกึ่งระหว่างความเป็นจริง และโลกของจินตนาการ นั่นคือความสัมพันธ์ของชายรักชายนั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับอย่างทางการ แต่ทุกคนล้วนแต่รับรู้ และมองเป็นเรื่องปกติ ..ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายกับประเทศไทยเราเองเหมือนกันนะ)

ซานโดร และริคาโด้ มักจะแอบนัดพบกันในป่าลึกใกล้กับโรงงาน หรือตามสถานที่ลับตาต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยชิน เพื่อทำบางสิ่งที่ลึกซึ้งร่วมกัน โดยที่ไม่สนใจเลยว่าสถานที่นั้นมันจะไม่ค่อยสะดวกต่อการทำกิจกรรมซักเท่าไหร่ ในห้วงเวลาของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้น พวกเขาแทบจะแนบชิดกันจนเหมือนคนรัก แต่ในเวลาปกติอื่น ๆ ของชีวิต พวกเขาแทบจะไม่เปิดเผยตัวตนของกันและกัน หรือจะเรียกว่า ทำตัวเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยก็ว่าได้ ครั้งหนึ่งซานโดรเคยโกหกกับเพื่อนร่วมงานคนสนิทว่า เขาไม่เคยมีแม้กระทั้งเบอร์โทรของริคาโด้อยู่ในมือถือเลย
"นายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสี่สิบ"

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะดำเนินไปจนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เหมือนกับวงจรชีวิตทั่วไปของซานโดร จนกระทั่ง ไมค่อน(Rafael Teóphilo) หนุ่มล่ำ ผมบลอนด์ครึ่งซีก ในชุดหนัง ที่เหมือนจะหลุดออกมาจากภาพวาดของ Tom of Finland ที่ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ พร้อมกับแฟนสาว ที่มาทำงานประจำอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าประจำเมืองที่ซานโดรเคยทำอยู่สมัยยังหนุ่ม
ซานโดร ไม่เข้าใจถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นในใจของเขา เมื่อได้พบกับไมค่อน เพราะทั้งชีวิตเขาพร่ำบอกกับตัวเองว่าเขาไม่ใช่เกย์ และไม่มีวันเป็นอย่างแน่นอน ความสัมพันธ์ที่แล้วมากับเพื่อนร่วมงานนั้นเป็นแค่การปลดเปลื้องอารมณ์ของชายหนุ่มที่ใครทั่วไปก็ทำกันเท่านั้นเอง แต่ครั้งนี้อาจเป็นความรู้สึกราวกับมี รักครั้งแรก ของเขา เหมือนกับเพลง เพลงนึงที่ร้องว่า "เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่" แต่สำหรับซานโดร มันคงต้องเปลี่ยนเนื้อร้องว่า "นายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสี่สิบ"

รู้สึกหึง แต่ไม่ได้รู้สึกรัก
เมื่อความร้อนรุ่มในใจที่เกิดจากเสน่ห์ลึกลับไมค่อน ยังไม่ทันได้จางหาย ก็มีเหตุการณ์ใหม่เข้ามาซ้ำเติมพ่อหนุ่มซานโดรเข้าไปอีก เนื่องจากความลับที่ทับซ้อน เมื่อคู่ขาคนสนิทของเขา ริคาโด้ ได้ไปแอบมีความสำพันธ์กับ ไมค่อน ที่เป็นดั่ง รักครั้งแรกของเขาเข้าซะนี่ ตอนนี้ "ความหึง" ได้ก่อตัวขึ้นมาครั้งแรก ในใจของซานโดร เป็นความหึงที่เขาเองก็ไม่อาจเข้าใจว่าคืออะไร ในชีวิตของเขา แค่พยายามรักษาความลับในความสำพันธ์นี้ก็ยุ่งยากพอตัวอยู่แล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันอีก
โจทย์ครั้งใหญ่ในชีวิตวัยกลางคนของซานโดรครั้งนี้ จะมีบทสรุปอย่างไร เขาจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไปพร้อม ๆ กับรักษาความลับที่กำลังถูกจับจ้องจากผู้คนนี้ได้อย่างไร ก็คงต้องไปหาคำตอบกันในภาพยนต์เรื่องนี้ Dry Wind (Vento Seco)

รีวิวโดยสรุป
ภาพยนต์เรื่อง Dry Wind เป็นอีกหนึ่งในภาพยต์ทางเลือก ในหมวด LGBTQ+ ที่มีสเน่ห์ในตัวเอง การดำเนินเรื่องค่อนข้างไหลเอื่อย ผมขอใช้คำนี้เพราะมันจะเอื่อยเฉื่อยไปตามชีวิตของตัวละครเอก แต่ก็ไม่เนิบนาบจนน่าเบื่อ แต่ค่อย ๆ นำพาคนดูให้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ คำถามใหม่ ๆ ที่ทำให้เราติดหนึบและอยากจะติดตามต่อไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนต์บราซิล ที่เป็นภาษาโปรตุเกส แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะหนังไม่มีบทพูดยาว ๆ มากมาย จังหวะการตัดต่อให้เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คงจะเปรียบได้กับภาพยนต์ของ เต๋อ นวพล ผู้กำกับชาวไทยที่หลายคนคงจะรู้จักกันดี งานภาพ(Photography) ของเรื่องจัดได้ว่างดงาม ทั้งในเรื่องของคุณภาพ และการใช้สื่อความหมายต่าง ๆ แทนคำพูดและสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อความหมายได้ดี และมีการใช้เพลงประกอบตามฉากที่น่าหลงไหล มีหลาย ๆ เพลงที่ผมได้ฟังจากหนังแล้วติดหู จนต้องมาเปิดฟังวนซ้ำ ๆ เช่นเพลง I'm on fire ของ Bruce Springsteen เป็นอีกภาพยนต์ที่น่าจับตามอง ที่จะทำให้คุณสนุกไปกับการรับชม และอยากรบชมซ้ำ ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ ผู้กำกับได้ซ่อนเอาไว้ในหนัง รอให้คนดูตีความ



ใครดูแล้วมาพูดคุยกันได้ หรือถ้าอยากให้แอดมาเขียนบทความเต็ม ๆ อธิบายเรื่องราวในหนังก็ลองคอมเมนต์กันได้นะคร้าบ ถ้าหากมีใครสนใจอาจจะลองเขียนหรือทำคลิปเล่าอธิบายหนังแบบละเอียด มาให้ฟังกันดู
#รีวิวหนัง #LGBTQ #เกย์หมี #DryWind #VentoSeco
ขอลิงค์ ได้ไหมครับ จะได้ช่วย comment ;-)
น่าดูครับ